ประชากรในประเทศจีน

เชื้อชาติ

จีนเป็นประเทศเอกภาพที่มีหลายชนชาติ รัฐบาลจีนดำเนินนโยบายทางชนชาติที่ให้ ชนชาติต่าง ๆ มีความเสมอภาค สมานสามัคคีและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เคารพและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาและขนบธรรมเนียมของชนชาติส่วนน้อยระบบปกครองตนเองในเขตชนชาติส่วนน้อยเป็นระบบการเมืองอันสำคัญอย่างหนึ่งของจีน คือ ให้ท้องที่ที่มีชนชาติส่วนน้อยต่าง ๆ อยู่รวม ๆ กันใช้ระบบปกครองตนเอง ตั้งองค์กรปกครองตนเองและใช้สิทธิอำนาจปกครองตนเอง ภายใต้การนำที่เป็นเอกภาพ ของรัฐ รัฐประกันให้ท้องที่ที่ปกครองตนเองปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายของรัฐตามสภาพที่เป็นจริงในท้องถิ่นของตน ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ระดับต่าง ๆ บุคลากรทางวิชาการและ กรรมกรทางเทคนิคชนิดต่าง ๆ ของชนชาติส่วนน้อยเป็นจำนวนมาก ประชาชน ชนชาติต่าง ๆ ในท้องที่ที่ปกครองตนเองกับประชาชนทั่วปแระเทศรวมศูนย์กำลังดำเนิน การสร้างสรรค์สังคมนิยมที่ทันสมัย เร่งพัฒนาเศรษฐกิจและวัฒนธรรมในท้องที่ที่ ปก ครองตนเองให้เร็วขึ้นและสร้างสรรค์ท้องที่ที่ปกครองตนเองของชนชาติส่วนน้อยที่สมานสามัคคีกันและเจริญรุ่งเรือง ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ระหว่างการปฏิบัติเป็นเวลาหลายสิบปี พรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ของจีนได้ก่อรูปขึ้นซึ่งทรรศนะและนโยบายพื้นฐานเกี่ยวกับปัญหาทางชนชาติหลายประการที่สำคัญได้แก่

การปกครองตนเองในเขตชนชาติส่วนน้อยเป็นคุณูปการอันยิ่งใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีต่อทฤษฎีชนชาติของลัทธิมาร์กซ และเป็นระบอบมูลฐานในการแก้ปัญหาชนชาติของจีนการพยายามสร้างขบวนเจ้าหน้าที่ชนชาติส่วนน้อยขนาดใหญ่ขนาดหนึ่งที่มีทั้งคุณธรรม และขีดความสามารถเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุดในการทำงานทางชนชาติให้ดีและแก้ปัญหาทางชนชาติให้ลุล่วงไปปัญหาทางชนชาติกับปัญหาทางศาสนามักจะผสมผสานอยู่ด้วยกันในท้องที่บาง แห่ง ขณะจัดการกับปัญหาทางชนชาติ ยังต้องสังเกตปฏิบัติตามนโยบายทางศาสนา ของรัฐอย่างทั่วด้านและถูกต้องนอกจากนี้ ในขณะเดียวกันกับที่พยายามส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษาตลอดจนภารกิจอื่น ๆ ของเขตชนชาติส่วนน้อย ยกระดับชีวิตทาง วัตถุและวัฒนธรรมของประชาชนชนชาติส่วนน้อยอันไพศาลซึ่งรวมทั้งชาวศาสนาด้วยให้สูงขึ้น รัฐบาลจีนยังสนใจเคารพความเชื่อถือทางศาสนาของชนชาติส่วนน้อยและรักษา มรดกทางวัฒนธรรมของชนชาติส่วนน้อยเป็นพิเศษ สำรวจ เก็บสะสม ศึกษา จัดให้เป็น ระเบียบและจัดพิมพ์จำหน่ายมรดกทางวัฒนธรรมและศิลปะพื้นเมืองของชนชาติต่าง ๆ ซึ่งรวมทั้งวัฒนธรรมทางศาสนาด้วย รัฐบาลยังได้ลงทุนเป็นจำนวนมากเพื่อซ่อมแซม วัดวาอารามและสิ่งปลูกสร้างทางศาสนาอันสำคัญที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในเขตชนชาติส่วนน้อย

ศาสนา

ประชาชนจีนมีทั้งสิ้น 56 ชนเผ่า ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ โดยนับถือนิกายมหายานและวัชรยานโดยนับถือปนไปกับลัทธิขงจื้อและลัทธิเต๋ากว่า 300 ล้านคน นอกนั้นนับถือนิกายเถรวาท มีนับถือศาสนาอิสลามกว่า 11 ล้านคน และนับถือศาสนาคริสต์อีก5.2 ล้านคน

ภาษา

ภาษาจีนเป็นภาษาเก่าแก่และเป็นภาษาที่คนใช้มากที่สุดภาษาหนึ่ง เป็นภาษาหลักที่คนจีนใช้กันอยู่ ภาษามาตาฐานของภาษาจีน คือ ภาษาจีนกลาง ซึ่งเป็นภาษาที่ชาวฮั่นใช้กันโดยทั่วไปเป็นภาษากลางที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ และในชนเผ่าต่าง ๆ ของจีน
แม้ชาวจีนทุกคนสามารถใช้ภาษาจีนได้ แต่จากการที่ประเทศจีนมีอาณาเขตที่กว้างขวางทำให้ท้องถิ่นต่าง ๆ มีภาษาพูดที่แตกต่างกัน โดยภาษาพูดที่ใช้กันในแต่ละท้องถื่นคือ ภาษาถิ่น ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้ติดต่อกันเฉพาะในท้องถื่น ภาษาท้องถื่นของจีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้มีหลายภาษา เช่น ภาษาเหนือ ภาษาอู๋ ภาษาเซียง ภาษาก้าน ภาษาแคะ ภาษาหมิ่น ภาษาเย่ว์ ทั้งหมดนี้ภาษาเหนือเป็นภาษาที่มีการใช้กันมากที่สุด

การศึกษา

ตั้งแต่ปี 1986 การศึกษาภาคบังคับในประเทศจีนประกอบด้วยโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งรวมกันมีระยะเวลาเก้าปี ในปี 2021 นักเรียนประมาณ 91.4 เปอร์เซ็นต์ศึกษาต่อในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายสามปี ในปี 2020 ผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาร้อยละ 58.42 ได้ลงทะเบียนเรียนในระดับอุดมศึกษา มีการศึกษาด้านอาชีวศึกษาสำหรับนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาทั่วประเทศ นักเรียนชาวจีนมากกว่า 10 ล้านคนสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั่วประเทศทุกปี
ประเทศจีนมีระบบการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีนักเรียนประมาณ 282 ล้านคน และครูเต็มเวลา 17.32 ล้านคนในโรงเรียนมากกว่า 530,000 แห่ง การลงทุนด้านการศึกษาต่อปีเพิ่มขึ้นจากน้อยกว่า 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2003 เป็นมากกว่า 817 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2020 อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายด้านการศึกษายังคงไม่เท่าเทียมกัน ในปี 2010 ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาต่อปีต่อนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในกรุงปักกิ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 20,023 เยน ในขณะที่ในกุ้ยโจว ซึ่งเป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งในจีนมีค่าใช้จ่ายเพียง 3,204 เยนเท่านั้น การศึกษาภาคบังคับโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในประเทศจีนประกอบด้วยโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีอายุระหว่าง 6 ถึง 15 ปี ในปี 2021 อัตราส่วนการลงทะเบียนสำเร็จการศึกษาในระดับการศึกษาภาคบังคับสูงถึงร้อยละ 95.4 และชาวจีนประมาณ 91.4% ได้รับการศึกษาระดับมัธยมศึกษา

อัตราการรู้หนังสือของจีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากเพียง 20% ในปี 1949 และ 65.5% ในปี 1979 ถึง 97% ของประชากรที่มีอายุเกิน 15 ปีในปี 2020 ในปีเดียวกันนั้น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เจียงซู และเจ้อเจียง ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน ได้รับการจัดอันดับให้สูงที่สุดในโลกในการจัดอันดับโครงการประเมินนักศึกษานานาชาติสำหรับทั้งสามประเภท ได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และทักษะทางการอ่าน ในปี 2021 จีนมีมหาวิทยาลัยมากกว่า 3,000 แห่ง โดยมีนักศึกษามากกว่า 44.3 ล้านคนลงทะเบียนเรียนในจีนแผ่นดินใหญ่ และพลเมืองจีน 240 ล้านคนได้รับการศึกษาระดับสูง ทำให้จีนกลายเป็นระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปี 2021 จีนมีจำนวนมหาวิทยาลัยชั้นนำมากเป็นอันดับสองของโลก (สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย) ปัจจุบัน จีนเป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกาในแง่ของการเป็นตัวแทนในรายชื่อมหาวิทยาลัยชั้นนำ 200 แห่งตามการจัดอันดับทางวิชาการของมหาวิทยาลัยโลก
ในปี 2022 มหาวิทยาลัยสองแห่งในจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ในอันดับที่ 15 ของโลก โดยมีมหาวิทยาลัยปักกิ่ง (อันดับที่ 12) และมหาวิทยาลัยชิงหฺวา (อันดับที่ 14) และมหาวิทยาลัยอีกสามแห่งที่อยู่ใน 50 อันดับแรกของโลก

เมืองใหญ่

ดูรายชื่อทั้งหมดที่รายชื่อเมืองในจีนเรียงตามจำนวนประชากร อันดับเมืองขนาดใหญ่ 20 เมืองแรก จัดอันดับตามจำนวนประชากร

กีฬา

จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประวัติศาสตร์ทางการกีฬาที่เก่าแก่ที่สุดของโลก มีหลักฐานว่าการยิงธนูมีต้นกำเนิดตั้งแต่ยุคราชวงศ์โจวตะวันตก กีฬาอย่างชู่จฺวีซึ่งเป็นกีฬาที่เป็นต้นแบบของการเล่นฟุตบอลในประเทศ มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ราชวงศ์แรก ๆ ของประเทศเช่นกัน การฝีกฝนสมรรถภาพทางกายได้รับการปฏิบัติอย่างกว้างขวางในวัฒนธรรมจีน โดยการออกกำลังกายในตอนเช้า เช่น ชี่กง และไท่เก๊ก ก็มีการฝึกกันอย่างแพร่หลาย และโรงยิมและฟิตเนสกำลังได้รับความนิยมไปทั่วประเทศในปัจจุบัน ปัจจุบันบาสเก็ตบอลเป็นกีฬาสำหรับผู้ชมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศจีน การแข่งขันลีกโดยสมาคมบาสเกตบอลจีน และ สมาคมบาสเกตบอลแห่งชาติได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ นักบาสเกตบอลชาวจีนบางรายมีชื่อเสียงระดับโลก เช่น เหยา หมิง และ อี้ เจี้ยนเหลียน ลีกฟุตบอลอาชีพของจีน ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อไชนีสซูเปอร์ลีก ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 เป็นตลาดฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออก

กีฬายอดนิยมอื่นๆ ในประเทศ ได้แก่ ศิลปะการต่อสู้ เทเบิลเทนนิส แบดมินตัน ว่ายน้ำ และสนุกเกอร์ เกมกระดานเช่น หมากล้อม (เรียกว่า wéiqí ในภาษาจีน), หมากรุกจีน, ไพ่นกกระจอก ก็มีการเล่นในระดับมืออาชีพเช่นกัน ประเทศจีนยังเป็นศูนย์รวมของการปั่นจักรยาน โดยในปี 2012 มีจักรยานประมาณ 470 ล้านคันทั่วประเทศ กีฬาแบบดั้งเดิมอีกมากมาย เช่น การแข่งเรือมังกร มวยปล้ำสไตล์มองโกเลีย และการแข่งม้าก็เป็นที่นิยมเช่นกัน

จีนมีส่วนร่วมในกีฬาโอลิมปิกมาตั้งแต่ ค.ศ. 1932 โดยเข้าร่วมในฐานะสาธารณรัฐประชาชนจีนในโอลิมปิกฤดูร้อน 1952 จีนเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งนักกีฬาได้รับเหรียญทอง 48 เหรียญ ซึ่งถือเป็นจำนวนเหรียญทองสูงสุดของประเทศที่เข้าร่วมในปีนั้น จีนยังได้รับเหรียญรางวัลมากที่สุดในพาราลิมปิกฤดูร้อน 2012 โดยได้เหรียญทั้งหมด 231 เหรียญรวม และ 95 เหรียญทอง กีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน 2011 จัดขึ้นที่เชินเจิ้น รวมถึง โอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อน 2014 ที่หนานจิง


footer